การเข้าเล่นแบล็คแจ็คออนไลน์

เล่นแบล็คแจ็คออนไลน์ คาสิโนถ่ายทอดสดตลอด 24 ช.ม.

1. ที่คาสิโนออนไลน์ redrake-gaming.com เราแนะนำให้คุณเลือกเล่นแบล็คแจ็คออนไลน์แบบสด (Live Blackjack) โดยสามารถเข้าเล่นและสมัครสมาชิกได้ตลอด ผ่าน Line หรือการกรอกแบบฟอร์มในหน้าสมัครสมาชิกของเรา เมื่อท่านเข้าสู่คาสิโน Vivo Gaming ของเราแล้วก็สามารถเลือกนั่งในโต๊ะแบล็คแจ็คที่ท่านต้องการและเริ่มสนุกกับการเดิมพันได้ทันที

2. เมื่อเริ่มเกมเจ้ามือจะใช้ประมาณ 5 – 6 สำรับในการสับไพ่เพื่อแจก เราต้องเข้าไปนั่งที่โต๊ะ เพื่อวางเดิมพัน สามารถวางเดิมพันได้ขั้นต่ำ 250 บาท ในโต๊ะมาตราฐาน สามารถเล่นสูงสุดได้มือละ 5,000 บาท โดยจะมีการแจกไพ่ให้ผู้เล่นทุกคน รวมทั้งเจ้ามือ เป้าหมายของเกมคือเราต้องทำให้ไพ่ของเรามีแต้มใกล้เคียง 21 แต้มมากที่สุด โดยการเรียกไพ่ไปเรื่อยๆ เมื่อเราพอใจในแต้มที่มี ให้ทำการหยุดเรียก เมื่อทุกคนในโต๊ะทำการหยุดเรียกหมดแล้ว เจ้ามือจะเริ่มเรียกไพ่ของตัวเอง เมื่อการเรียกไพ่ของทุกคนทั้งผู้เล่น และเจ้ามือสิ้นสุดลง ให้ดูว่าใครมีแต้มใกล้เคียง 21 แต้มมากกว่ากัน คนนั้นจะเป็นผู้ชนะ และได้รับเงินรางวัลไป

วิธีการนับแต้มในเกมแบล็คแจ็ค

ตัวเลขต่างๆ เช่น 2 , 3 , 4 ไปจนถึง 10 นับแต้มตามตัวเลข ตัวอักษรภาษาอังกฤษ J , Q , K นับเป็น 10 แต้ม A นับเป็น 11 แต้ม หรือจะนับเป็น 1 แต้มก็ได้ แล้วแต่สถานการณ์ โดยเราสามารถเลือกได้เอง เช่นเมื่อได้ไพ่ K กับ A เราจะให้ A เท่ากับ 11 แต้ม เพื่อรวมกับ K จะได้ครบ 21 แต้มพอดี หรือได้ไพ่ 9 กับ 5 กับ 4 และ A เราจะให้ A แทน 1 แต้ม เมื่อรวมกันจะได้ 20 แต้ม

การเดิมพันไพ่แบล็คแจ็ค และอัตราการจ่ายเงิน

การอยู่ และจั่วไพ่ (Stand & Hit)
การอยู่และการเรียกไพ่เป็นพื้นฐานของการเล่นแบล็คแจ็ค โดยในกรณีที่เราแต้มไม่ถึงหรือเกิน 21 แต้มนั้น เราจะมีสิทธิ์เรียกไพ่ได้เรื่อยๆ (เมนูในคาสิโนออนไลน์ของเราคือ “จั่ว” และหยุดเรียกเมื่อพอใจ เรียกว่า “อยู่” หรือ Stand นั่นเอง)

21 แต้ม หรือการได้ Blackjack
เมื่อไพ่ 2 ใบแรกของเรารวมกันได้ 21 แต้ม จะเรียกว่า แบล็คแจ็ค และได้เงินรางวัล 1.5 เท่า เช่นเมื่อวางเงินเดิมพัน 100 บาท จะได้เงิน 150 บาท ไม่รวมทุน คล้ายๆกับการเล่นป๊อกเด้ง คือการชนะการเดิมพันในรอบนั้นๆทันที

การแทง 2 เท่า – Double Down
เราสามารถวางเดิมพันเพิ่มได้อีก 1 เท่า จากตัวอย่างข้างบน เช่น เมื่อเราขอแยกไพ่แล้ว มือที่ 1 ได้ไพ่ K วางเดิมพัน 100 เราสามารถเพิ่มเดิมพันเป็น 200 บาท ได้ แต่ว่ามีสิทธิเรียกไพ่ได้อีกแค่ใบเดียวเท่านั้น หากว่าเราแต้มมากกว่าเจ้ามือจะได้อัตราจ่าย 1 ต่อ 1

การแยกไพ่ – Split
เมื่อเราได้ไพ่ 2 ใบเหมือนกัน เราสามารถแยกไพ่ได้หมายความว่าเราจะวางเดิมพันเป็น 2 มือ เช่น เดิมพันที่ 100 ได้ เมื่อเราได้ไพ่ K กับ K เราสามารถแยกไพ่ได้ แต่ต้องวางเดิมพันเท่าเดิม จะกลายเป็น มือที่ 1 ได้ไพ่ K วางเดิมพัน 100 และ มือที่ 2 ได้ไพ่ K วางเดิมพัน 100 จากนั้นก็จะแจกไพ่ต่อตามปกติ แต่หากว่าเราได้ไพ่ 21 จะไม่นับเป็น แบล็คแจ็ค หากว่าเจ้ามือได้ 21 แต้ม จะถือว่าไม่เสมอ และเราจะแพ้เดิมพัน หากว่าเราแต้มมากกว่าเจ้ามือจะได้อัตราจ่าย 1 ต่อ 1

เดิมพันไพ่ประกัน – Insurance
เมื่อเจ้ามือเปิดไพ่ใบแรกของตัวเองเป็น A เราสามารถขอวางเงินประกันได้ โดยวางได้ครึ่งเดียวจากเงินเดิมพันที่วางไปแล้ว เช่นวางเดิมพัน 100 บาท ก็สามารถขอวางเงินประกันได้แค่ 50 บาท เท่านั้น เมื่อเจ้ามือเปิดไพ่ใบที่ 2 ได้ 10 ซึ่งเท่ากับ แบล็คแจ็ค เราจะชนะเดิมพัน และได้เงินรางวัลจากค่า 2 เท่า นั่นคือวางค่าเงินประกัน 50 บาท จะได้ 100 บาทไม่รวมทุน หากว่าเจ้ามือไม่ออก แบล็คแจ็ค เราจะเสียเงินประกัน และเกมดำเนินต่อ

สิ่งที่ควรรู้ก่อนเริ่มเล่น Blackjack ออนไลน์กับเรา

กรณีไพ่ของเราเกิน 21 แต้ม จะถือว่าแป้ก หรือ Busted โดยจะต้องเสียเงินเดิมพันทันที ไม่ว่าเจ้ามือกี่แต้มก็ตาม นี่คือกติกาสากล
เจ้ามือจะต้องเรียกไพ่เรื่อยๆ หากว่ามีน้อยกว่า 16 แต้ม หรือมี 16 แต้ม แต่เมื่อมี 17 แต้ม หรือมากกว่า 17 แต้มต้องหยุดเรียกทันที
เราสามารถเรียกไพ่ หรือว่าไม่เรียกก็ได้ โดยที่ไม่เกี่ยวกับจำนวนแต้ม
หากเราไม่ตัดสินใจเรียกไพ่ หรือการกระทำอื่นๆ ก่อนเวลาหมด เราจะถูกบังคับให้อยู่โดยอัตโนมัติ

เทคนิคการเดิมพันไพ่แบล็คแจ็ค สำหรับมือใหม่และมือเก๋า

สำหรับเกมอย่างแบล็คแจ็คนั้น แน่นอนเกมนี้ขึ้นอยู่ที่ประสบการณ์ทั้งหมด เราต้องอ่านเกมให้ออกว่าเราจะเรียก หรือหยุด หรือแยกไพ่ ซึ่งกว่าจะเก่งกันได้ต้องใช้เวลาพอสมควร อย่างไรก็ตามเราได้สรุปเทคนิคการเล่นจากนักพนันผู้เชี่ยวชาญและมือโปรของเรา ถึงหลักการเล่นที่เหมาะสมในแต่ละสถานการณ์ และสิ่งต่างๆ ที่เราควรทำ เวลาเกิดเหตุการณ์ต่างๆ มีดังนี้

  • เทคนิคการแทงประกัน หากว่าเจ้ามือได้ไพ่ใบแรกเป็น A นำว่าควรแทงประกันทุกครั้ง เพราะว่ามีโอกาสเยอะมากที่จะเป็น แบล็คแจ็ค
  • เทคนิคการแทงแบบแยกไพ่ ควรแยกไพ่ทุกครั้ง เมื่อเราได้ 2 ใบแรก เหมือนกัน เช่น K กับ K , Q กับ Q , J กับ J และ 10 กับ10
  • • เทคนิคการเรียกไพ่ อย่าหวังว่าแต้มจะต้อง 21 แต้มทุกครั้ง บางครั้งเพียงแค่ 12 หรือ 13 ก็สามารถชนะได้ ในกรณีที่มี่ 2 ใบแรกรวมกันได้ 11 แต้ม ควรเรียกไพ่เพิ่มทุกครั้ง หากว่ามีแต้ม 17 หรือว่า มากกว่า 17 ไม่ควรเรียกไพ่เพิ่ม